เทรนด์ UX/UI ปี 2025 อะไรกำลังมาแรง!

UX/UIAI
by Warangkhana S.
Flux_Dev_A_highly_detailed_futuristic_3D_rendering_of_a_profes_1.jpeg

ปี 2025 จะเป็นอีกปีที่การออกแบบ UX/UI ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ และพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปเป็นตัวกำหนดทิศทางของการออกแบบและนี่คือเทรนด์ UX/UI ที่น่าจับตามองในปี 2025:

57d4ee7b-05aa-48b8-b7c6-ee948681539f.png

1. AI-Driven Personalization 🔥

การนำ AI มาใช้เพื่อ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ และ ปรับแต่งประสบการณ์ใช้งาน ให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบแนะนำคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ใช้
  • การออกแบบ UI ที่เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมการใช้งาน
  • Chatbot และ Voice UI ที่ฉลาดขึ้นและโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติและคาดการณ์ความต้องการของผู้ใช้

ตัวอย่าง: Netflix, Spotify และ eCommerce อย่าง Amazon ที่ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้และนำเสนอคอนเทนต์หรือสินค้าที่เหมาะสม

2. AI-Assisted Design 🎨🤖

AI ไม่ได้เข้ามาเพียงเพื่อช่วย ปรับแต่ง UX/UI ให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน แต่ยังช่วย นักออกแบบ UX/UI ในกระบวนการออกแบบโดยตรงอีกด้วย เทรนด์ AI-Assisted Design จะช่วยให้การออกแบบ เร็วขึ้น ฉลาดขึ้น และแม่นยำขึ้น

  • ใช้AI ในการแนะนำเลย์เอาต์ สี ฟอนต์ และองค์ประกอบ UI โดยอิงจากแนวทางการออกแบบที่ดีที่สุดและข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้
  • การใช้ AI ในการสร้าง Wireframe และ Prototype อัตโนมัติ ตามแนวทาง UX ที่เหมาะสม
  • จำลอง User Testing และให้ฟีดแบ็กเกี่ยวกับ UX/UI โดยอัตโนมัติโดยใช้ AI

ตัวอย่าง: Adobe Sensei ที่ช่วยสร้างดีไซน์อัตโนมัติ หรือ Uizard ที่สามารถแปลงภาพร่างเป็น UI Prototype ได้

3. Adaptive & Responsive Design ขั้นสูง 📱💻

แนวคิด Responsive Design ไม่ใช่แค่ปรับขนาดให้เหมาะกับอุปกรณ์ แต่ในปี 2025 Adaptive UX/UI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจะสามารถ เปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้เข้ากับสถานการณ์ของผู้ใช้ได้ เช่น

  • UI สามารถปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้ง เวลา และอุปกรณ์ของผู้ใช้
  • ใช้ท่าทางมือในการควบคุมอินเทอร์เฟซ โดยเฉพาะใน AR/VR

ตัวอย่าง: ระบบนำทางบนสมาร์ตโฟนที่เปลี่ยนโหมดเป็น Dark Mode โดยอัตโนมัติในเวลากลางคืน หรือ UI ของ Smartwatch ที่ปรับเปลี่ยนตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้

4645d1db-5b6e-4b8c-bc46-151011473946.png

4. Microinteractions & Motion UI ที่สมจริงกว่าเดิม 🎨

Microinteractions หรือแอนิเมชันเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความลื่นไหลให้ UI จะมีบทบาทมากขึ้น เช่น

  • ปุ่มที่ตอบสนองไวขึ้นและมีเอฟเฟกต์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • Animation ที่ช่วยสื่อสารและนำทางผู้ใช้
  • UI ที่เน้น Neumorphism & Glassmorphism เพื่อให้ดูทันสมัย

ตัวอย่าง: ปุ่มกดที่มี Haptic Feedback (การใช้แรงสั่นสะเทือนหรือแรงดันเพื่อตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้) ทำให้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสจริง หรือ Animation ที่ทำให้ UX สนุกขึ้น เช่น Apple’s Dynamic Island

5. Ethical & Privacy-First UX 🔒

ผู้ใช้เริ่มให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว (Privacy) และจริยธรรมในการออกแบบ UX มากขึ้น เช่น

  • UI ที่ให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการควบคุมข้อมูลของตัวเอง
  • การออกแบบแบบ Privacy by Design ที่ไม่เก็บข้อมูลโดยไม่จำเป็น
  • UI ที่โปร่งใสและไม่มี Dark Patterns (เทคนิคบังคับให้ผู้ใช้ทำสิ่งที่ไม่ต้องการ)

ตัวอย่าง: Apple ที่ออกแบบระบบให้ผู้ใช้สามารถปิดการติดตามโฆษณาได้ง่ายขึ้น

6. Minimalism with Personality 🖌️

Minimalism ยังคงเป็นเทรนด์หลัก แต่ในปี 2025 การออกแบบ Minimal จะไม่จืดชืดอีกต่อไป แต่จะเพิ่ม ความเป็นเอกลักษณ์ (Personality) ผ่าน สีสัน ไอคอน ตัวอักษร และการเคลื่อนไหว

  • การจัดวางแบบอสมมาตร
  • การใช้สีสันสดใส
  • Microinteractions ที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา

ตัวอย่าง: เว็บไซต์ที่เน้นการออกแบบสะอาดตา แต่มีสีสันและ Animation ที่เพิ่มเอกลักษณ์ให้ UI เช่น Google Material You ที่ปรับ UI ให้เข้ากับตัวตนของผู้ใช้

6828b002-5d31-4f13-9686-d75e50007b37.png

7. Bento Box Design 📦

แนวทางการออกแบบที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2025 คือ Bento Box Design ซึ่งใช้ Grid-based Layout ที่จัดระเบียบเนื้อหาให้อ่านง่าย ดูเป็นระเบียบ และใช้งานสะดวก เช่น Dashboard และ Mobile App

การออกแบบ UI ในรูปแบบ Bento Box ซึ่งใช้ Grid-based Layout ที่จัดระเบียบเนื้อหาให้อ่านง่าย ดูเป็นระเบียบ และใช้งานสะดวก

  • แบ่งเนื้อหาออกเป็นบล็อกที่ชัดเจน
  • ใช้ Grid System เพื่อให้ UX สะอาดและใช้งานง่าย

ตัวอย่าง: UI ที่ใช้การออกแบบแบบโมดูลาร์เพื่อความเป็นระเบียบ เช่น Apple ที่ใช้ดีไซน์นี้ใน iOS 17 Widgets

สรุป: เทรนด์ UX/UI ปี 2025 มุ่งไปทางไหน?

ปี 2025 จะเป็นปีที่ UX/UI ก้าวไปอีกระดับด้วยการนำ AI และ Automation เข้ามาช่วยออกแบบและปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีขึ้น AI-Assisted Design จะช่วยให้กระบวนการออกแบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ AI-Driven Personalization จะทำให้ UX ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล

นอกจากนี้ Adaptive UX, Motion UI และ Microinteractions จะช่วยให้การออกแบบสมจริงและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ดีขึ้น Minimalism with Personality จะทำให้การออกแบบที่เรียบง่ายดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์มากขึ้น ไม่ใช่แค่ความมินิมอลที่จืดชืดอีกต่อไป ในขณะเดียวกัน Bento Box Design จะช่วยให้ UI มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบ อ่านง่าย และใช้งานสะดวกขึ้น

สุดท้าย Ethical & Privacy-First Design จะกลายเป็นมาตรฐานที่นักออกแบบต้องให้ความสำคัญเพื่อตอบโจทย์ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

---

AI DETA มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศ, การพัฒนาระบบ ERP และการปรับแต่ง Odoo ERP, การพัฒนาและจัดการ Cloud-Based Solution/Application, โซลูชันด้านข้อมูล การเรียนรู้ของเครื่องจักร และปัญญาประดิษฐ์ (Data/ML/AI Solution), รวมถึงการ Subcontract, Outsource, และ Consult ให้แก่องค์กรต่าง ๆ และพวกเราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการทำ Digital Transformation ให้กับองค์กรของคุณ

หากมีความสนใจให้พวกเราเป็นผู้พัฒนาระบบหรือให้คำปรึกษา หรือต้องการสอบถามอัตราค่าบริการต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ทางอีเมล [email protected] หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ https://aideta.com

อ้างอิง



© 2025, AI DETA COMPANY LIMITED, All Rights Reserved
Attributions